ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม
บอกสาเหตุที่ “พายุโนรู” สลายตัวเร็ว ทำให้ประเทศไทยไม่เดือดร้อนมากกว่านี้ เพราะมีเทือกเขา “อันนัม” เป็นเสมือนเกราะคุ้มครอง เผยคนไทยโชคดีที่เราตั้งถิ่นฐานอยู่เบื้องหลังอันนัม
เมื่อวันที่ 29 เดือนกันยายน เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อมและอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เผยสาเหตุที่ “พายุโนรู” สลายตัวเร็ว ทำให้ประเทศไทยไม่เดือดร้อนมากกว่านี้ โดยระบุไว้ว่า “พายุหมุนเกิดในทะเล ตายในเทือกเขา นี่เป็นประโยคสั้นๆแต่ผมมีความคิดว่าอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไทยดีสุด “โนรู” ที่รุนแรงตอนขึ้นฝั่ง อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วทันใจ ทำให้ประเทศไทยไม่เดือดร้อนมากไปกว่านี้ แล้วโนรูตายที่ไหน? คำตอบเป็นพายุหมดแรงบน “อันนัม” เทือกเขาที่เป็นเสมอเหมือนเกราะคุ้มครองไทย
อันนัมไม่ได้อยู่ในเมืองไทยด้วย เทือกเขาอยู่ในเวียดนาม
ในลาว และก็มีส่วนปลายอยู่ในเขมรแต่เทือกเขายาว 1,100 กิโล มากถึง 2,800 เมตร เป็นปราการธรรมชาติที่ปกป้องประเทศไทยมาบ่อยครั้ง อันนัมทอดยาวขนานชายฝั่งเวียดนาม แบ่งเขตชายฝั่งออกจากลุ่มน้ำแม่โขงที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินทุกครั้งที่มีพายุไต้ฝุ่นหรือพายุใหญ่เข้ามาทางเวียดนาม อันนัมหยุดกระแสลมไว้ ทำให้พายุที่เกรี้ยวกราดลดความกระแสลมเหลือเพียงดีเปรสชั่น แม้ฝนจะตกอยู่ แต่กระแสลมเบาลงมาก ความชื้นในอากาศส่วนหนึ่งถูกกักเก็บไว้
อันนัมยังเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ ป่าดิบชื้นเรื่อยจนกระทั่งป่าดิบเขาที่สำคัญในอินโดจีน เป็นถิ่นที่อยู่ของ “เสาลา” แอนทีโลปหายากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก เจอเฉพาะแถวอันนัมตอนเหนือ ในลาวและก็เวียดนาม
อันนัมยังป้อนน้ำให้ลำโขง ทำให้ผู้คนในลาวและก็เขมรมีความสุขและก็นั่นเป็นเรื่องที่อยากเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟัง ถึงปราการแห่งอินโดจีนเทือกเขาที่มีความหมายมากมายต่อไทยและก็จะยิ่งทวีความสำคัญ เมื่อโลกร้อนขึ้น เมื่อสภาพอากาศสุดขั้วแรงขึ้นอันนัมยังคงตั้งตระหง่าน และก็คนไทยโชคดีเหลือเกินที่เราตั้งรกรากอยู่เบื้องหลังอันนัม”