Monday, 20 March 2023

“ช่อ” ชี้ APEC 2022 โอกาสทอง ไทยสร้างเครดิตเวทีโลก ถ้าผู้นำมีวิสัยทัศน์

“ช่อ” แกนนำคณะก้าวหน้า วิเคราะห์ไทย กับ APEC 2022 ชี้ เป็นโอกาสทอง ไทยสร้างเครดิตในเวทีโลก หากผู้นำมีวิสัยทัศน์ มองสูญเสียโอกาสใช้ APECเป็นเครื่องกอบกู้ภาพลักษณ์ประเทศ ชี้ หากแม้แทงข้างรัสเซียสุดตัว แต่สุดท้ายไม่มีเงา “ปูติน” ร่วม

วันที่ 15 เดือนพฤศจิกายน 65 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมกลุ่มเสวนา “เวที APECรวมทั้งการต่างประเทศ ไทยจะไปทางไหนท่ามกลางความมีความขัดแย้ง?” ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารกิจกรรมนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อวิเคราะห์ถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก ต่อการได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC)

พรรณิการ์

น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า APEC ไม่ใช่เพียงแค่การประชุม

เรื่องเศรษฐกิจเพียงแต่อย่างเดียว ด้วยเหตุว่าทุกเวทีการประชุมสูงสุดล้วนแต่เป็นสถานที่แสดงอำนาจรวมทั้งบทบาทของประเทศต่างๆในการเมืองระหว่างประเทศทั้งนั้น ซึ่งไทยก็จะต้องร่วมเล่นการเมืองนี้อย่างฉลาดหลักแหลม รวมทั้งควรใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดในการกอบกู้ทศวรรษแห่งความเสียเปล่าในการต่างประเทศของไทย ที่ผ่านมามีบทบาทเพียงการไล่อธิบายกับนานาชาติว่าเหตุใดจึงต้องรัฐประหาร การตอบคำถามว่าเมื่อใดจะมีเลือกตั้งรวมทั้งการแก้ตัวให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนเท่านั้น

แต่ประเทศไทยกลับใช้โอกาสนี้เล่นการเมืองอย่างไม่ฉลาดหลักแหลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งต่อการแสดงออกในกรณีรัสเซีย-ยูเครน ในทางที่เข้าข้างรัสเซียมากกว่าประเทศมหาอำนาจตะวันตก หรือการแสดงออกอย่างสมดุลมาโดยตลอด ถึงขั้นมีการส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปเยี่ยมรัสเซียเมื่อเดือนก.ย. ซึ่งวันนี้ชัดเจนแล้วว่าทางสหรัฐอเมริกา ไบเดนไม่ยอมมาร่วมด้วยตนเอง ขณะที่ทางฝั่งรัสเซีย ปูตินก็ไม่ได้มาด้วยตัวเองเหมือนกัน ทำให้เห็นว่านโยบายเลือกข้างเช่นนี้ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากมหาอำนาจ

น.ส.พรรณิการ์ ยังระบุต่อไป ว่าการมาหรือไม่มาของผู้นำระดับสูงสุดเป็นตัวบ่งชี้ถึงความน่าเชื่อใจของผู้เชิญ ว่าสามารถสร้างภาพลักษณ์ในเวทีสุดยอด มีบทบาทในการเจรจา สร้างเวทีความร่วมมือได้หรือไม่ ซึ่งนี่คือสิ่งที่หายไปจากประเทศไทย จะมองเห็นได้ว่าผู้นำสูงสุดหลายคนล้วนเข้าร่วมการประชุม G20 ที่บาหลี อินโดนีเซีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่กลับตอบรับมาร่วมประชุมเอเปกกันน้อยมาก ทำให้การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกของไทยล้มเหลวในการเป็นเครื่องมือกอบกู้ภาพลักษณ์ กลายเป็นเพียงแต่การประชุมตามวาระปกติ รวมทั้งกรอบความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว ดังเช่น เรื่องการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก เท่านั้น

พรรณิการ์ การประชุม

น.ส.พรรณิการ์ ยังกล่าวต่อไปว่า การแก้ปัญหาการเมืองจากภายในเท่านั้น

ที่จะช่วยคลี่คลายภาพลักษณ์ในการต่างประเทศของไทยได้ ด้วยเหตุว่าความน่าเชื่อใจของประเทศไทยในวันนี้อยู่ในจุดที่ตกต่ำอย่างมาก แม้ว่าจะพยายามขายภาพลักษณ์ที่ดี แต่ความเป็นจริงคือประเทศไทยทำตรงข้ามในทุกๆเรื่องที่เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงในเรื่องที่เวทีโลกสังเกตอยู่ อีกทั้งในเรื่องของประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเลือกข้างอย่างไม่สมดุลในเวทีระหว่างประเทศ

“ในเวทีรอบนี้มีการกล่าวเรื่องของการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นคอนเซปต์ที่ดี แต่รัฐบาลซึ่งอ้างคำนี้ก็คือรัฐบาลเดียวกันกับที่คว่ำกฎหมายสุราก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจต่อไป อ้างว่า จะส่งเสริมเกษตรกรแต่ยังมีเกษตรกรถูกรัฐจับกุมตัว ด้วยเหตุว่ารุกป่าตลอดเวลา อีกทั้งที่รัฐไปประกาศที่ อุทยานทับที่ชาวบ้าน อ้างว่าถือมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนสากล แต่ก็ยังจับคนเข้าคุกในคดี 112 ตลอดเวลา รวมทั้งที่น่าประหลาดใจที่สุด คือ การกล้าเอาปลากุเลาตากใบขึ้นโต๊ะ กาลาร์ดินเนอร์ ขณะที่ชาวตากใบเกือบร้อยคนที่เสียชีวิตจากการกระทำเกินกว่าเหตุของทหารในปี 2547 ยังไม่เคยได้รับความยุติธรรม รวมทั้งคนจังหวัดชายแดนใต้ยังคงถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงมาจนถึงวันนี้” พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ ระบุด้วยว่า การได้เป็นเจ้าภาพเอเปกของไทยปีนี้ต้องเป็นปีที่พิเศษมาก หลังจากที่เวทีเอเปกไม่ได้มีการประชุมแบบเจอตัวกันมานานหลายปี บวกกับมีอีกทั้งสถานการณ์โลก ดังเช่น ความแปรผันของสภาพภูมิอากาศ วิกฤติพลังงาน การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด อื่นๆอีกมากมาย ทำให้มีโอกาสสูงที่การประชุมครั้งนี้จะสามารถถูกทำให้เป็นการประชุมที่มีความหมายมากกว่าการประชุมตามวาระทั่วๆไป แต่น่าเสียดายที่เมื่อผู้นำของประเทศขาดความน่าเชื่อใจ จึงทำให้ไม่สามารถแสดงบทบาทนำในลักษณะนี้ได้

น.ส.พรรณิการ์

10 เรื่องต้องรู้ไว้ “ไทยเจ้าภาพประชุมเอเปค APEC 2022 Thailand”

เริ่มต้นแล้วสำหรับการการประชุมAPEC 2022 Thailand ซึ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพรวมทั้งพร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้นำ ตัวแทนผู้นำ อย่างเป็นทางการ

1. การประชุมเอเปค มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 (APEC2022)

2. มีความสำคัญอย่างไร : เอเปค หรือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation:APEC) คือ เวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จัดตั้งขึ้นในปี 2532 มีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุน รวมถึงความร่วมมือในด้านมิติสังคมรวมทั้งการพัฒนาด้านอื่นๆดังเช่น

ความร่วมมือด้านการเกษตร การส่งเสริมบทบาทสตรีในเศรษฐกิจ การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ รวมทั้งการพัฒนาด้านสาธารณสุข เพื่อนำไปสู่การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ยั่งยืน รวมทั้งความร่ำรวยของประชาชนในภูมิภาค

3. มีตั้งแต่วันที่ 14-19 เดือนพฤศจิกายน2565 โดยจัดที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมทั้ง 5.ในช่วงที่มีการประชุม รัฐบาลไทยประกาศวันหยุดราชการ 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-18 เดือนพฤศจิกายน2565

4. เอเปคมีสมาชิกจำนวน 21 เขตเศรษฐกิจ ดังเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ประเทศญี่ปุ่น แคนาดา เกาหลีใต้ รวมทั้งรัสเซีย รวมทั้งไทยเป็นหนึ่งใน 12 เขตเศรษฐกิจผู้ร่วมจัดตั้งขึ้น ซึ่งเอเปคมีประชากรรวมกว่า 2,900 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของโลก มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) รวมกันกว่า 53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ1,700 ล้านล้านบาท

5. การประชุมเอเปคที่จัดขึ้นที่ไทย นับเป็นครั้งแรกในประชุม “ต่อหน้า” ในรอบหลายปี ด้วยเหตุว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา การประชุมเอเปคชอบเกิดอุปสรรคขึ้นบ่อยๆเริ่มตั้งแต่ สหรัฐอเมริกาเริ่มต้นประกาศสงคราม การค้ากับ 15 ประเทศที่สหรัฐอเมริกาขาดดุลการค้าด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสงคราม การค้าในครั้งนี้ที่เริ่มต้นในปี 2018

ทำให้การประชุมยอดเยี่ยมผู้นำเอเปคที่ควรต้องหารือกันเพื่อสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์การประชุมร่วมกันรวมทั้งออกแถลงการณ์ร่วมกันได้ในปี 2018 ที่ประเทศปาปัวนิวกีนีเป็นเจ้าภาพ ต่อเนื่องด้วยปี 2019 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองขึ้นในประเทศเจ้าภาพการประชุม นั่นคือ ชิลี ทำให้ในปี 2019 ไม่มีการประชุมยอดเยี่ยมผู้นำเอเปค

APEC

6. “แมวนวล” ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ภาพ “น้องนวล” แมวพรีเซนเตอร์โปรโมตงานเอเปค 2022 ผ่านอินสตาแกรมเพื่อเชิญชักชวนติดตามการประชุม APEC 2022 ที่ปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยกำหนดข้อความว่า

นวลขอเชิญพี่ๆทุกคนมาร่วม “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล” การเป็นเจ้าภาพ APECในปีนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะมีบทบาทที่สร้างสรรค์ ในการร่วมกำหนดนโยบายรวมทั้งทิศทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคระหว่างประเทศ แลกเปลี่ยนความรู้รวมทั้งประสบการณ์กับประเทศในเขตเศรษฐกิจเอเปค เพื่อนำมาปรับปรุงรวมทั้งยกระดับมาตรฐานทางเศรษฐกิจของไทยให้ทันสมัย เป็นสากล รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพ ในมิติต่างๆให้แก่ภาครัฐรวมทั้งเอกชน

นอกเหนือจากนั้น ยังเป็นการแสดงความพร้อมของไทยในการ ต้อนรับนักลงทุนรวมทั้งนักท่องเที่ยวในยุคหลังการระบาดของโควิด-19

การประชุมเอเปค มีประโยชน์มากมายขนาดนี้ นวลจึงอยากเชิญชวน พี่ๆทุกท่านมาเป็นเจ้าบ้านที่ดีรวมทั้งส่งเสริมให้การประชุมเอเปคในปีนี้สำเร็จลุล่วง ไปด้วยดีกันนะคะ

7. ในช่วงของการประชุมเอเปค ซึ่งผู้นำรวมทั้งตัวแทนผู้นำแต่ละประเทศจะพบปะสนทนากันนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ประชาชนหลีกหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณโดยรอบศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2565 โดยเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบด้านการจราจร

  • ถนนรัชดาภิเษก แยกอโศกมนตรี- แยกพระราม 4 และถนนดวงพิทักษ์ตลอดสาย ขอให้งดใช้ตลอด 24 ชม.
  • ถนนเพลินจิต (ขาเข้า), ถนนวิทยุ (ช่องทางหลัก) ตั้งแต่ แยกเพลินจิต – แยกสารสิน, ถนนราชดำริ (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่ แยกราชประสงค์ – แยกราชดำริ, ซอยต้นสน ตลอดสาย และซอยร่วมฤดี ตลอดสาย ขอให้งดใช้ช่วงเวลา ตั้งแต่ 18.00 น.-06.00 น. ของวันถัดไป
  • จัดเดินรถทางเดียว (one way) ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ถนนราชดำริ (ขาออก) ตั้งแต่ แยกราชดำริ – แยกราชประสงค์, ถนนวิทยุ (ขาออกช่องคู่ขนาน) ตั้งแต่ แยกสารสิน – แยกเพลินจิต และถนนเพลินจิต (ฝั่งขวา) ตั้งแต่แยกใต้ด่วนเพลินจิต – แยกราชประสงค์

8. MRT หยุดให้บริการ สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งดจอดรับส่งผู้โดยสารในสถานีนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 เวลา 00.01 น. – จนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 เวลา 18.00 น.

9. สวนป่าเบญจกิติ ปิดให้บริการ ตั้งแต่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 ด้วยเหตุว่าสวนดังกล่าวจะเป็นที่ตั้งของฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งเป็นสถานที่ใกล้กับจุดที่มีการประชุมกัน จึงต้องให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงสุด

10. ไทยได้ประโยน์อะไรต่อการประชุมเอเปค ในครั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ส่งผลดีทันทีต่อเศรษฐกิจในประเทศไทยเพราะว่านอกเหนือจากผลการประชุมที่จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกรอบที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว

การประชุม APEC

ผลได้จากการประชุมเอเปคที่เกิดขึ้นทันที โดยไม่ต้องรอการประชุมยอดเยี่ยมผู้นำ นั่นคือ ตลอดทั้งปี มีคณะของ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปคในทุกระดับ ที่มาประชุมกันรวมแล้วกว่า 14 คลัสเตอร์ ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ จนถึงรัฐมนตรี รวมทั้งผู้นำของประเทศ รวมถึงกองทัพสื่อ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศ เข้าทางประชุม เข้ามาใช้บริการต่างๆอีกทั้ง อาหาร โรงแรม การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมของที่ระลึก ขนส่ง ภาคบริการ รวมทั้งภาคการผลิตของไทยก็ได้รับผลประโยชน์ไปแล้ว

ทั้งหมดคือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมทั้งช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในประเทศไทยเกิดการขยายตัว รวมทั้งยังนับว่าเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในเวทีโลกได้เป็นอย่างดี